10 ร้านน่ารัก บรรยากาศดี น่าถ่ายรูป

1. ไปถ่ายน้องแกะ อัพอินสตาร์แกรมที่ร้าน ชีพ วิลเลจ (Sheep Village)

    

                อดีตร้านระเบียงทะเลเก่าเปลี่ยนเจ้าของกลายมาเป็นร้าน Sheep Village ร้านอาหารในสไตล์หมู่บ้านแนวคันทรี่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านอาหารริมน้ำแล้ว ลูกค้ายังสามารถมาถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่ได้อีกด้วย และที่พลาดไม่ได้คือการมาแชะภาพกับน้องแกะ ตัวอ้วนกลมสุดเชื่อง รวมทั้งยังมีน้องเป็ด น้องกระต่าย ให้คุณได้ทานอาหารไปชมสัตว์เหล่านี้ไปอย่างเพลิดเพลิน

รายละเอียดร้าน Sheep Village

2. ทำตัวเป็นกรองแก้วตามหาคุณชายพุฒิภัทร ในวังจุฑาเทพที่ร้าน จิรธร (Jirathorn)

   

                   ศาลาสีขาวสะอาดตา รูปร่างหน้าตาเหมือนย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในสวนสีเขียว ที่นี่คือร้านอาหารบรรยากาศน่านั่ง ชื่อว่าร้านจิรธร เจ้าของคือคุณจิรธรที่ชอบทำอาหาร และมีสูตรอาหารคือไก่ดำปารีส ที่เคยทำให้เพื่อนๆ ทานแล้วชอบ คุณจิรธรเลยมีความตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแห่งนี้เพื่อให้เป็นที่นั่งพักผ่อนพร้อมลิ้มลองอาหารในบรรยากาศดีๆ นอกจากนี้ทางร้านยังรับจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ภายในร้าน โดยเฉพาะงานหมั้นที่คู่รักหลายคู่นิยมมาจัดงานที่นี่เพราะบรรยากาศอันอบอุ่นและโรแมนติกของร้าน

รายละเอียดร้าน จิรธร (Jirathorn)

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่ 10 ร้านน่ารัก บรรยากาศดี น่าถ่ายรูป

ที่มา www.chillpainai.com

10 สุดยอดอาหารดีท็อกซ์

ช่วงนี้เข้าเทรนด์รักสุขภาพกันดีกว่า

Check-Bill ขอแนะนำ 10 สุดยอดอาหารดีท็อกซ์

ซึ่งเพื่อนๆ สามารถรับประทานกันได้

อาหารเหล่านี้ช่วยล้างสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราควรทานให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ส่วนบริโภค 

(1 ส่วนบริโภค = 1 ถ้วยตวง หรือ 240 มิลลิลิตร)
 

10 สุดยอดตัวเต็งมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ!

1. หน่อไม้ฝรั่ง

 

 

นำไปนึ่งหรือต้มสักครู่จนนิ่ม ราดด้วยน้ำมันมะกอกเล็กน้อย บีบน้ำมะนาวลงไป ก็จะได้อาหารเรียกน้ำย่อย

 

หรือเครื่องเคียงที่อุดมด้วยกรดอะมิโนที่เรียกว่า แอสพาราจีน (asparagine) รวมถึงโพแทสเซียมที่ช่วยขับ

 

ปัสสาวะและทำความสะอาดอวัยวะภายใน ช่วยไตขับสารพิษ และการบวมน้ำ

 

โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน

 

 

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่  10 สุดยอดอาหารดีท็อกซ์

ที่มา www.chillpainai.com

10 ที่พัก สไตล์วินเทจ

"สไตล์วินเทจ" เป็นอีกสไตล์หนึ่งที่มาแรงมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์วินเทจ

การตกแต่งสวนสไตล์วินเทจ เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ที่พักสไตล์วินเทจที่เป็นที่นิยมหาข้อมูลกัน

วันนี้เราเลยอยากพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักที่พักสไตล์วินเทจกัน มาดูกันว่าแต่ละที่จะสวย น่ารักขนาดไหน

เชื่อแน่ว่าใครทีชอบแนวนี้ต้องชอบเป็นแน่ๆ ชอบกันแล้วก็หาโอกาสไปพักกันให้ได้นะ ^^
 

1. เดอะ เฮ็น หัวหิน (The Hen Hua Hin) หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 


ที่พักในฝันของสาวๆ หลายคน เพราะที่นี่เคยเป็นบ้านพักฤดูร้อนของตระกูลดิศกุล ซึ่งยังเก็บรักษาลุคบ้านพักตากอากาศริมทะเลย้อนยุคสมัย ร.7 เอาไว้อย่างครบถ้วน ภายในจึงกรุ่นกลิ่นอายคลาสสิคผสมวินเทจ แอบเบรคอารมณ์เล็กๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสดใส โดยไม่ลืมใส่ใจรายละเอียดภายนอกอย่างสวนสวยและศาลานั่งเล่นริมทะเล

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่  10 ที่พัก สไตล์วินเทจ

ที่มา www.chillpainai.com

10 เมนูดับร้อน จาก 10 ร้านน่ารัก

1. Matcha เหมียว เหมียว จากร้าน Cataholic Cafe

   

                  ร้อนแบบนี้ต้องมาดื่ม Matcha เหมียว เหมียว ของร้าน Cataholic Cafe คาเฟ่แมวเหมียวสักแก้ว โดยเขาใช้ชาเขียวเอาไปทำเป็นน้ำแข็งแล้วมาใส่ในน้ำเขียวโซดาให้รสชาติ หวาน เย็น ซ่า ชื่นใจ ดื่ม Matcha เหมียว เหมียว ไปก็นั่งดูความน่ารักของน้องเหมี่ยวในร้านนี้ได้ เพลินมาก

ดูรายละเอียดร้าน ที่นี่ 

2. ไอศรีมเวเฟอร์ จากร้าน Uku cafe'

  

                 ใครที่ชอบทานกาแฟและชอบเล่นอุคูเลเล่ ต้องร้านนี้ “อุคูคาเฟ่” ร้านกาแฟน่ารักๆ ที่มีเมนูดับร้อนอย่าง ไอศรีมเวเฟอร์ ไอศกรีมโฮมเมดกับเวเฟอร์กรอบนอก นุ่มใน พร้อมวิปปิ้งครีม  ทานขนมอร่อยๆ พร้อมกับหยิบอูดูเลเล่มาเล่นแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ดูรายละเอียดร้าน ที่นี่ 

อ่านต่อคลิ๊กเลย 10 เมนูดับร้อน จาก 10 ร้านน่ารัก

ที่มา www.chillpainai.com

10 ที่เที่ยว น่าอัพลง Instagram @สิงคโปร์

รู้นะ! ว่าเพื่อนๆ กำลังนั่งนับวันรอหยุดยาวช่วงสงกรานต์นี้

เมื่อไหร่จะถึงซักที เค้าจะเที่ยวแล้วนะ!

โอเค ใจเย็น ไม่เป็นไร! เรามาเตรียมความพร้อมกันก่อนก็ได้

Check-Bill ก็เลยมี 10 ที่เที่ยวน่าอัพรูปลง Instagram @สิงคโปร์

มาให้เพื่อนๆ จัดแผนกันก่อนชิลๆ ><

ว่าแต่มีที่ไหนบ้าง เรามาเตรียมชาร์ทแบตโทรศัพท์ เตรียมอัพ IG กันได้เล้ย ^o^

1. CLARKE QUAY

---

จากท่าเทียบเรือที่เป็นแหล่งศูนย์กลางการค้าในศตวรรษที่ 19 

ได้กลายมาเป็นแหล่งบันเทิงยอดฮิตอีกย่านในสิงคโปร์

สัมผัสสีสันและความมีชีวิตชีวาได้ตลอดค่ำคืนกับร้านอาหาร

ผับ บาร์ ในสไตล์ที่เพื่อนๆ ชื่นชอบ

ไม่ว่าจะนั่งทานอาหารค่ำชิลๆ ฟังดนตรีสด หรือแดนซ์สุดเหวี่ยง

เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมแม่น้ำสิงคโปร์และความงดงามของสถาปัตยกรรมอาคารเก่าได้ลงตัว

การเดินทาง : MRT CLARKE QUAY STATION

ร้านชิลแนะนำ

*AQUANOVA RESTAURANT BAR*

ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งบันเทิงของ Clarke Quay ที่เติมความสนุกให้ชีวิตยามค่ำคืนด้วยมื้อค่ำสุดอร่อย

และดนตรีสดที่ให้คุณสังสรรค์กันแบบเต็มรสชาติ และยังได้ชมบรรยากาศชิลๆ โดยรอบ หากเลือกที่นั่งบริเวณ outdoor

โทร : (+65) 6305 6768

เปิดบริการ  อาทิตย์/อังคาร/พฤหัส  18.00-03.00 น.

                 พุธ  18.00-04.00 น.

                 ศุกร์-เสาร์และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์  18.00-05.00 น.

http://www.aquanova.sg

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่ 10 ที่เที่ยว น่าอัพลง Instagram @สิงคโปร์

ที่มา www.chillpainai.com

10 เกาะฮ็อตทะเลอ่าวไทย... ร้อนนี้อย่าพลาด

ร้อนๆแบบนี้ จิตใจโหยหาแต่ทะเลเท่านั้นค่ะ

วันนี้จะมานำเสนอทะเลฝั่งอ่าวไทย ที่เที่ยวได้ไม่ยากเลย

เจาะลึก 10 เกาะที่ได้รับความนิยมกันมากที่สุด

เอ...แต่มักจะมีคำถามนะคะ ว่าทะเลอ่าวไทย เที่ยวช่วงเดือนไหนดี

ไปแล้วไม่อยากเจอคลื่นลม ไม่อยากเจอมรสุม ต้องไปช่วงไหน

ก็ขออธิบายคร่าวๆนิดนึงค่ะว่า

ทะเลไทยแบ่งช่วงเวลาน่าเที่ยวไว้ 2 ช่วง คือ ช่วงเดือน พฤศจิกายน-เมษายน กับ ช่วงเดือน เมษายน-ตุลาคม

ตามช่วงเวลามรสุมประจำฤดูที่พัดผ่านประเทศไทย

จำง่ายๆเลยค่ะว่า

โซนทะเลอ่าวไทย ส่วนภาคใต้ ไล่ตั้งแต่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวคือ เดือน เมษายน - ตุลาคม

โซนภาคตะวันออก ชลบุรี พัทยา ระยอง เสม็ด เกาะกูด เกาะช้าง ตราด เกาะหมาก เกาะล้าน
ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวคือ เดือนพฤศจิกายน-เมษายน

โซนฝั่งอันดามัน ภูเก็ต เกาะพีพี กระบี่ ตรัง ระนอง พังงา เกาะสิมิลัน เกาะหลีเป๊ะ ตะรุเตา
ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวคือ เดือนพฤศจิกายน-เมษายน (เหมือนทะเลโซนภาคตะวันออกค่ะ)

ส่วนทะเลใกล้ๆ กรุง อย่างหัวหิน ชะอำ ปราณบุรี ฝนก็ตกคล้ายๆกับกรุงเทพฯแหละค่ะ
เพราะฉะนั้นถ้า กรุงเทพฯ ฝนตก ก็ระวังจะเจอฝนที่ทะเลหัวหิน ชะอำ นะคะ

เอาล่ะคะ เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า

กับ 10 เกาะฮ็อตทะเลอ่าวไทย... ร้อนนี้อย่าพลาด!!! 

1. เกาะสีชัง

---

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ “เกาะสีชัง” เพียงแค่จากเพลงไทยยุคคุณพ่อคุณแม่ยังสาว คนกรุงหลายคนก็ไม่รู้ว่าเกาะสีชังที่ถูกกล่าวถึงในเพลงเพราะแสนจะคลาสสิกนั้น อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ในเขตจังหวัดชลบุรี ซึ่งห่างจากฝั่งศรีราชาเพียง 12 กิโลเมตรเท่านั้น แถมยังเป็นเกาะที่สงบสุข สวยงาม และมีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ไหนๆ

บนพื้นที่กว่า 25 ตารางกิโลเมตรบนเกาะสีชัง ยังคงมีความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอยู่สูง นอกจากบ้านเรือนของคนท้องถิ่นที่อยู่กันอย่างเรียบง่ายถ้อยทีถ้อยอาศัย ชวนให้นึกความอบอุ่น มีน้ำใจแบบคนไทยในสมัยก่อนแล้ว ทิวทัศน์บนพื้นแผ่นดินเหนือน้ำแห่งนี้ ยังเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นและดอกหญ้าสีทองสลับกับแนวโขดหินสวยงาม ยิ่งในเวลาดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ภาพของแสงแดดสีทองต้องกับดอกหญ้าฟูๆ นับร้อยนั้น แสนจะประทับใจ จนอยากจะหยุดเวลาไว้นานๆ

แนะนำที่พักที่กินที่เที่ยวและสกู๊ปที่เกี่ยวกับ เกาะสีชัง คลิ๊กที่นี่

 

ดาวน์โหลตและชมแผนที่ขนาดใหญ่ คลิ๊กที่นี่

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่   10 เกาะฮ็อตทะเลอ่าวไทย... ร้อนนี้อย่าพลาด

ที่มา www.chillpainai.com

10 ร้านอาหารญี่ปุ่นน่ากิ๊น น่ากิน

1. Izakaya O Ryu

   

               ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากะยะ “ Izakaya” นั้นคือ บาร์ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่ให้บริการอาหารรสดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งสาเก เหล้าโชจู ส่วนคำว่า โอริว หมายถึง “มังกร” ร้านนี้จึงเป็นร้านแนวกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่ตกแต่งร้านสตรีท แค่เข้าไปในร้านก็พบกับภาพวอลล์เปเปอร์ชินจูกุขนาดใหญ่ทำให้ได้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งอยู่ในร้านย่านชินจูกุ ส่วนอาหารของที่นี่เน้นใช้วัตถุดิบคุณภาพและพิถีพิถันในการปรุง ส่วนการบริการก็เป็นกันเอง เหมาะกับการมานั่งสังสรรค์ยามเลิกงาน 

ที่อยู่ : ชั้น 1 ฟิฟตี้ฟิฟท์พลาซ่า ซอยทองหล่อ 2 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

เวลาเปิด : จันทร์-ศุกร์ 11.30-14.30 น และ 16.30 – 22.00 น เสาร์-อาทิตย์ 11.30 - 22.00 น

ราคาเฉลี่ยต่อหัว : 300-500 บาท

เบอร์โทรศัพท์ : 081-209-6565

ดูแผนที่และการเดินทางได้ ที่นี่

2. ห้องอาหารญี่ปุ่นนิชิกิ

      

                  ร้านอาหารญี่ปุ่นนิชิกิ ตั้งอยู่ภายในโรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีไลน์อาหารให้เลือกมากมายทั้งส่วนซูชิ ซาชิมิสดอร่อย ชาบู เทปปันยากิ นอกจากนี้ยังมีอาหารแนะนำทั้งหัวปลาแซลม่อนต้มซีอิ๊วรสชาติเข้าถึงเนื้อแซลม่อน เทมปุระ มุมสลัด ซุป มุมอาหารญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย มุมขนมหวานที่มีทั้งไอศกรีมและขนมหวานอย่างถั่วแดงน้ำแข็งใสสุดอร่อยให้เลือกตักได้ไม่อั้น ในราคามื้อกลางวัน 699 บาท มื้อกลางคืน 850 บาท และยังมีแบบเซ็ตเมนูอร่อยๆ อีกมากมาย

ที่อยู่ : ชั้น 1 โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ ถ.พระราม 9
เวลาเปิด : มื้อกลางวัน 11.30-14.30 น. และ มื้อเย็น 18.00-22.30 น.
ราคาเฉลี่ยต่อหัว : 500-1,000 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2641-4777 ต่อ 1241
ดูแผนที่และการเดินทางได้ ที่นี่

อ่านต่อคลิ๊กที่นี่  10 ร้านอาหารญี่ปุ่นน่ากิ๊น น่ากิน

ที่มา www.chillpainai.com